วิวัฒนาการของหลอดไฟฟ้าในปัจจุบัน ได้มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก โดยได้ถูกออกแบบมาเพิ่อใช้งานด้านการให้แสงสว่างทั่วไป และออกแบบมาสำหรับงานเฉพาะด้าน ทั้งนี้เป็นผลมาจาก วิวัฒนาการทางเทคโนโลยี และความต้องการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น
หลอดไฟที่ผลิตและออกแบบมาเพื่องานพิเศษ หมายถึง หลอดไฟที่ประดิษฐ์ขึ้น เพื่อใช้สำหรับงานเฉพาะเจาะจง และอื่นๆ ซึ่งจะอาศัยประโยชน์ของความยาวคลื่นแสงในย่านต่างๆ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
1. รังสีอินฟราเรด (Infrared Radiation)
2. รังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet Radiation)
ซึ่งในที่นี้เราจะกล่าวถึงเพียง ความยาวคลื่นในย่านรังสีอัลตราไวโอเลต โดยแบ่งเป็นสามประเภท ดังนี้
2.1 UV-A (ช่วงความยาวคลื่น 315 - 380 nm)
เป็นรังสีUV ที่ไม่ ค่อยมีอันตรายมากนัก สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ได้หลายด้าน เช่น
- การล่อแมลง โดยการติดตั้งหลอดไฟไว้ภายในเครื่องไฟดักแมลง ในงานป้องกันศัตรูพืชและการปศุสัตว์
เนื่องจากตาของแมลงประเภทนี้ สามารถรับรู้ได้ดี ในช่วงรังสี UV-A (315-380nm)
- อุตสาหกรรมอาหารใช้ตรวจหาเชื้อราที่เจือปนอยู่ในอาหาร เพราะ เชื้อราบางชนิดมองเห็นได้ชัดในรังสี UV
- อาชญาวิทยา ใช้สำหรับตรวจหารอยเลือด , รอยนิ้วมือ , ลายนิ้วมือ
- ตรวจลายเซ็น, ตรวจธนบัตรปลอม, ตรวจบัตรเครดิต
- งานตกแต่งเอฟเฟกต์พิเศษในคลับบาร์, ดิสโก้และโรงละคร
- รักษาโรคผิวหนังด้วยแสง รังสี UV-A มีความยาวคลื่น 320-390 nm เหมาะสำหรับการใช้เพื่อรักษาโรคผิวหนังต่างๆ
เพราะเป็นช่วงความยาวคลื่นที่มีผลโดยตรงต่อเม็ดสี
- การตรวจและวิเคราะห์วัตถุ สารบางชนิดจะเกิดการเรืองแสงให้เป็นรังสีที่มองเห็นได้ ภายใต้รังสี UV เราเรียกว่า ปฏิกิริยาเรืองแสง
(Fluorescence Effect) เรานำเอาคุณสมบัตินี้มาประยุกต์กับงานได้หลายประเภท เช่น
อุตสาหกรรมสิ่งทอ ใช้วิเคราะห์องค์ประกอบ ตรวจผลิตภัณฑ์เคมี, ตรวจสอบยา ว่าเป็นชนิดใด
- ใช้ในการให้อยู่ตัวหรือแห้งแข็งอย่างรวดเร็ว โดยการกระตุ้นให้เกิดการทำปฏิกริยาสารเคมีเช่นใช้ในงานอบกาวยูวี กาวติดกระจก
2.2 UV-B (ช่วงความยาวคลื่น 280 - 315 nm)
มีผลต่อร่างกาย และสิ่งของได้ก่อให้เกิดการไหม้ของผิวหนัง และการอักเสบของตาดำได้ แต่มีประโยชน์ในการรักษาโรคผิวหนัง
บางชนิดได้รวมถึงการประยุกต์ในงานอุตสาหกรรมเคมี
2.3 UV-C (ช่วงความยาวคลื่น 100 - 280 nm)
เป็นรังสีที่มีอันตรายต่อร่างกายได้อย่างรุนแรง เช่น ผิวแดงไหม้เกรียม หรือ เยื่อบุตาอักเสบ แต่เราประยุกต์มาทำประโยชน์
ในการฆ่าเชื้อโรค อุตสาหกรรมบรรจุหีบห่อ และในห้องปลอดเชื้อ อุตสาหกรรม Micro-Electronics เพื่อลบข้อมูล
แสง UV-C ที่มีความยาวคลื่นสั้น 253. 7 nm มีผลในการฆ่าเชื้อโรคได้ โดยมีผลข้างเคียงน้อยกว่าการใช้ยา หรือสารเคมีจึงมักใช้ใน
โรงพยาบาล, คลินิก, ห้องผ่าตัด